แบบโฮมออฟฟิศ
บ้าน

แบบโฮมออฟฟิศ

แบบโฮมออฟฟิศ อยู่สบาย ทำงานสนุก 

แบบโฮมออฟฟิศ หลายคนคงรู้จัก โฮมออฟฟิศ (HOME OFFICE) กันเป็นอย่างดี เป็นที่นิยมมากสำหรับ ผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ขนาดเล็กอย่างสตาร์ทอัพ และ SME เพราะเป็นได้ทั้งที่อยู่อาศัย และออฟฟิศในเวลาเดียวกัน และการทำงานในโฮมออฟฟิศ ยังให้บรรยากาศที่สบาย

โฮมออฟฟิศ คือ สำนักงานกึ่งที่พัก มีลักษณะคล้ายทาวน์โฮม อาคารมี 3-4 ชั้น โดยบริเวณชั้น 1-2 มักทำเป็นออฟฟิศ มีการแบ่งสัดส่วนสำหรับ การทำงานอย่างชัดเจน โดยไม่ต้องมาปรับเปลี่ย นทีหลังเหมือนทาวน์โฮม และมีที่จอดรถกว้างขวางจอดได้หลายคัน เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลางที่มี พนักงานไม่กี่คน บรรยากาศเป็น กันเองสบาย ๆ คล้ายบ้าน ราคาอยู่ที่ประมาณ 1-6 ล้านบาท

แบบโฮมออฟฟิศ

ออกแบบโฮมออฟฟิศ สวยๆ

ในยุคก่อน ๆ มักจะแยกกันระหว่างบ้าน และที่ทำงาน แต่ปัจจุบันนี้รูปแบบ การใช้ชีวิต และงานที่เปลี่ยนไป ทำให้คนรุ่นใหม่ส่วนหนึ่งเลือกที่จะทำ ออฟฟิศที่บ้านมากขึ้น การสร้างบ้านให้ตอบโจทย์การทำงานด้วยจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เริ่มนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ บ้านหลังนี้ในกรุงเทพ ก็เช่นเดียวกัน ถูกสร้างให้เป็น Home Office

ของนักออกแบบที่ ต้องการบรรยากาศ บ้านใที่มีพื้นที่ ฟังก์ชัน และบรรยากาศเอื้อต่อ การสร้างจินตนาการให้บรรเจิด และผ่อนคลายหลัง เสร็จจากการทำงาน แน่นอนว่าบ้านที่มีลักษณะปิดทึบ มองไปเห็นแต่ผนังก่อล้อมรอบ 4 ด้าน ย่อมไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ว่ามา จึงเกิดบ้านสีขาวโปร่ง ๆ ที่มองทางไหนก็สบายตา และมีลูกเล่นของเส้นสาย แสงสี ที่น่าสนใจในยามค่ำ

ความต้องการหลักของเจ้าของบ้าน ซึ่งเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า With it คือ การรีโนเวทบ้านหลังเก่าขนาด 450 ตารางเมตร ให้ตอบสนองต่อการใช้งาน และสร้างแรงบันดาลใจทั้งใน การดำรงชีวิตและการทำงาน ในฐานะดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า ที่ทำงานด้านแฟชั่น จึงมีไลฟ์สไตล์ที่สนุกสนาน ทันสมัย

ทำให้คาดหวังว่าพื้นที่ทำงาน และใช้ชีวิตใหม่นี้จะสามารถ ปรับเปลี่ยนใช้งานได้หลากหลาย ไม่จำเจน่าเบื่อ และเป็นอิสระ นักออกแบบ จึงนำจุดแข็งต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ และตกแต่งภายในบ้าน ให้สอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์ จุดเด่นของบ้าน เมื่อแรกเห็นอยู่ที่ Translucent Facade ที่ยื่นมาคลุมด้านหน้าชั้น 2 ทำจากแผ่นเหล็กปั๊มรูสีขาว ที่ไม่เพียง เปลี่ยนรูปลักษณ์ของ บ้านเดิมให้ดูโมเดิร์นขึ้น ยังสามารถออกแบบการใช้งานปิด-เปิดได้ตามความสถานการณ์ ส่วนที่ยื่นออกมาก็ทำหน้าที่ คลุมโรงรถ และลานบริเวณหน้าบ้านด้วย

รั้วที่ค่อนข้างแปลกตา กับการทำประตูทางเข้า เล็กให้เหมือนตู้มุมมนยื่นออกมา จากนั้นจะเป็นลานกว้าง ที่จัดพื้นที่สวนสีเขียวเล็กๆ ซึ่งมีช่องเพดานเปิดรับแสงธรรมชาติ จากด้านบนลงมาต่อเชื่อมกัน เป็นการต้อนรับกลับบ้าน ที่เต็มไปด้วยความเรียบ โล่ง และสดชื่นสบายตา  บ้านจัดสรร

แบบโฮมออฟฟิศ

บ้านหลังนี้เคยผ่านการปรับปรุงมาแล้ว

แต่เจ้าของบ้านก็ยังมีความรู้สึกว่าฟังก์ชันภายใน-ภายนอกยังดูขาด ๆ เกิน ๆ หลายจุด สถาปนิกจึงเริ่มต้นการทำงาน ด้วยการเก็บข้อมูลพื้นที่ อาคารเดิมนี้อย่าง ละเอียดทุกจุด ทุกมุม ทุกห้อง นำมาประมวลผลในภาพรวมพบว่า การวางตำแหน่งโครงสร้างของอาคาร มีส่วนทำให้เกิดจุดอับ ความไม่ต่อเนื่องของพื้นที่ จึงทำให้เกิดการเสียพื้นที่และใช้งานยาก จึงต้องออกแบบภายในใหม่ รื้อผนังบางจุด เพื่อเชื่อมโยงสเปซให้ใช้งานง่าย ดูไหลลื่น ในขณะที่ยังคงรักษาโครงอาคารเดิมไว้บางส่วน พร้อมรองรับฟังก์ชัน ของการพักผ่อนในพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่ที่ทำงาน สตูดิโอถ่ายภาพ ห้องประชุม รวมถึงที่สังสรรค์ ภายใต้บรรยากาศที่หลากหลาย

จากโจทย์ตั้งต้นทำให้ทีม ตกแต่งมีแนวคิดหลักในการนำบุคลิก และไลฟ์สไตล์ของเจ้าของมาออกแบบ ดังนั้นจึงเน้นเส้นโค้งมาใช้ในงาน สถาปัตยกรรมค่อนข้างมาก ทั้งประตู หน้าต่าง เคาน์เตอร์ครัว หรือแม้กระทั่งผนัง เพื่อลดทอนความรู้สึกแข็ง กระด้างของบ้านให้อ่อนลง ดูนุ่มนวลขึ้น พร้อมกับเพิ่มความหลาก หลายให้กับการออกแบบ แต่ยังคงให้ภาพรวมโดยรวมเป็นแนวคิดเดียวกัน

ตกแต่งสุดหรู

การออกแบบแสงไฟเป็นอีกลูกเล่น

ที่ เป็น highlight ของบ้าน เริ่มจากห้องอเนกประสงค์ ได้รับการออกแบบให้มี 2 แถวเป็นรูปตัว L ผ้าม่านใช้เป็นฉากกั้นที่ยืดหยุ่นในการเปิด และปิดระหว่างพื้นที่ กลางวันจะเป็นห้องโล่ง ๆ แบบโมเดิร์นมินิมอล แต่เมื่อเปิดไฟจะมีลำแสงจากไฟซ่อน แสงสีต่าง ๆ จากหลอดไฟ LED RGBเปลี่ยนสีได้ เพิ่มสีสันเปลี่ยนบรรยากาศ ที่ชวนให้สนุกสนานเวลา จัดปาร์ตี้ นอกจากนี้ก็ยัง มีรูปแบบแสงที่น่าสนใจ ในอีกหลายจุด

นอกจากแสงไฟ ประดิษฐ์ที่ดูเจิดจ้ากระตุ้นความรู้สึกตื่นตัวแล้ว ยังเพิ่มช่องทาง รับแสงธรรมชาติสวย ๆ เข้ามาทำให้บ้านมีชีวิตชีวาปนอบอุ่น ผ่านผนังกระจกเป็นช่องตาราง เมื่อแสงทะลุผ่าและตก กระทบจะทำให้มีมิติ ของแสงเงาสวยๆ เปลี่ยนรูปร่างไปตามทิศทางเดินทางของแสง เหมือนกำลังอยู่บ้าน ในต่างประเทศที่มักจะมี sunroom เอาไว้นั่งเล่น

บริเวณห้องนอน ทุกห้องเน้นโทนสีขาวและไม้สีอ่อน ๆ ทั้งบริเวณพื้น ผนัง ประตูหน้าต่าง ที่ยังคง concept เส้นโค้งเอาไว้ เพื่อเน้นย้ำถึงความรู้สึกอบอุ่น อ่อนโยน ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการพักผ่อนให้นอนหลับสบายทั้งคืน  บ้านแฝด 

ด้านหนึ่งของห้องนอน เป็นผนังกระจกบาน สไลด์ยาวตลอดหลายเมตร ทำให้สามารถ เปิดระบายอากาศในห้อง และมองเห็นทิวทัศน์ ภายนอกได้เต็มที่ ถัดจากประตูจะเป็นพื้นที่ ว่างต่ออกมาเป็นระเบียง สำหรับนั่งเล่นรับลมในวันที่อากาศดี ๆ เปลือกบ้านชั้นนอกสุด เป็นบานแผ่นเหล็กเจาะรูเล็ก ๆ ที่สามารถเลือกได้ว่าจะเปิดออก หรือจะปิดเพิ่มความเป็นส่วนตัว โดยที่ภายในห้องยัง คงรับแสงและลมได้

ลูกเล่นของแสงไฟ ประดิษฐ์ยังสามารถพบได้ ในอีกหลายจุดของบ้าน อาทิ ห้องน้ำ ห้องนอน รวมถึงบนดาดฟ้า ที่เป็นลักษณะไฟซ่อนหลืบให้เสง เป็นเส้นคล้ายแสงเลเซอร์ ที่ให้ความรู้สึกพิเศษ

ห้องนอน

ข้อดี-ข้อเสีย ของโฮมออฟฟิศ(HOME OFFICE)

ข้อดี
ใช้เป็นที่อยู่ และที่ทำงานไปในตัว
โฮมออฟฟิศให้ผลดีกับผู้ประกอบการ ทำให้ไม่ต้องเสียเงินสองต่อในการเช่า หรือซื้อทั้งที่อยู่อาศัย และออฟฟิศ และไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปกลับออฟฟิศ

1.จอดรถสะดวก
โฮมออฟฟิศ มีพื้นที่ด้านหน้าที่กว้างขวาง จอดรถได้ประมาณ 4-6 คัน และยังจอดได้ง่ายกว่าออฟฟิศที่อยู่บนตึกสูง ทำให้ต้องวนหาที่จอดรถ หรือต้องแย่งที่จอดรถกับพนักงานคนอื่น ๆ ที่สำคัญ เมื่อลูกค้ามาติดต่องานที่ออฟฟิศ ก็ทำให้ประทับใจกับการจอดรถที่ง่ายดายกว่าด้วย

2.ลดต้นทุนเรื่องค่าส่วนกลางอาคารสำนักงาน
การเช่าออฟฟิศตามอาคารสำนักงาน มักมีค่าส่วนกลาง เช่น ลิฟต์ ห้องน้ำส่วนกลาง ค่าจ้างแม่บ้านทำความสะอาด เป็นต้น ถ้าเป็นโฮมออฟฟิศ ก็จะลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปได้

3.พนักงานใช้ส่วนกลางของโฮมออฟฟิศได้
โครงการ บ้านโฮมออฟฟิศ มักมีฟิตเนส สระว่ายน้ำ พนักงานสามารถไปใช้งานได้ ถือเป็นสวัสดิการเพิ่มเติม ที่เราไม่ต้องออกเงินเพิ่ม

4.ลดต้นทุนที่ต้องจ่ายทั้งที่บ้านและออฟฟิศ
เช่น ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ อย่างค่าน้ำค่าไฟ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้อยู่แล้ว ถ้าสามารถรวบมาเป็นค่าใช้จ่ายในบิลเดียวกันได้ ก็จะทำให้ลดต้นทุนไปได้มาก  บ้านเดี่ยว

5.บรรยากาศผ่อนคลาย
โฮมออฟฟิศจะให้บรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเอง พนักงานจะรู้สึกเหมือนได้ทำงานอยู่บ้าน

6.การแต่งตัวยืดหยุ่น
ไม่จำเป็นต้องแต่งตัว เป็นทางการมาทำงานก็ได้ เพราะพนักงานมีไม่กี่คน และไม่ได้พบปะผู้คนมากมาย แค่แต่งตัวให้เรียบร้อยก็ใช้ได้ ยกเว้นถ้าต้องพบลูกค้า ก็ควรแต่งตัวให้ดูดีขึ้นมาหน่อย