แนะนำซื้อบ้านหลังแรก
บ้าน

แนะนำซื้อบ้านหลังแรก

แนะนำซื้อบ้านหลังแรก
KONICA MINOLTA DIGITAL CAMERA

แนะนำซื้อบ้านหลังแรก

แนะนำซื้อบ้านหลังแรก บ้านเป็นต้นเหตุ 4 เพื่อการดำรงชีพ ด้วยเหตุผลดังกล่าว เมื่อมีบทบาทงานการ รายได้ป้อมปราการคงจะผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยก็ต้องการเติมเต็มความฝันด้วยการมีบ้าน โดยกรรมวิธีการซื้อบ้านชอบขอกู้สินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งลักษณะพิเศษเป็นมีช่วงเวลาผ่อนส่งเป็นเวลายาวนานกว่าสินเชื่อชนิดอื่นๆสูงสุดไม่เกิน 30 ปี แสดงว่า แม้ตกลงใจซื้อบ้านควรจะมีภาระหน้าที่ผ่อนหนี้ค่อนชีวิต ด้วยเหตุนั้น การตัดสินใจผ่อนบ้านสักข้างหลัง ที่สำคัญแม้เป็นบ้านข้างหลังแรกจำเป็นต้องคิดอย่างละเอียด เพราะเหตุว่าหากข้อผิดพลาดบางทีอาจจำต้องใช้เวลาสำหรับในการแก้ไขมากยิ่งกว่าที่คิด

เมื่อเอ๋ยถึงเงินทอง สิ่งที่คนโดยมากชอบระลึกถึงเป็นอันดับหนึ่งเป็น บ้านแล้วก็รถยนต์ เด็กที่เพิ่งจะเรียบจบมาหมาดๆเริ่มปฏิบัติงานก็มีความต้องการต้องการมีบ้าน มีรถยนต์ ผู้ที่คิดแผนสร้างครอบครัวก็ต้องการขยับขยายมีบ้านและก็รถยนต์ที่ตอบปัญหาเยอะขึ้น การมีบ้านก็เลยเป็นความฝันของแทบทุกคนเลยก็ว่าได้ บ้าน

แน่ๆว่าการมีบ้านที่ตอบปัญหาความฝันนั้น ก็จะต้องแลกเปลี่ยนมาพร้อมกับภาระหน้าที่รายจ่ายต่างๆโดยยิ่งไปกว่านั้นค่าผ่อนบ้าน ทำให้บางทีอาจไม่เหลือเงินออมแล้วก็เงินทุนสำหรับจุดหมายการคลังที่สำคัญอื่นๆเพราะฉะนั้นถ้าพวกเราสามารถลดภาระหน้าที่นี้ได้เร็วมากแค่ไหน พวกเราก็จะมีเงินเหลือเพื่อไปสร้างจังหวะการลงทุนอื่นๆได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ในเนื้อหานี้ก็เลยต้องการเสนอ 3 เทคนิคผ่อนบ้านให้หมดเร็ว

พวกเราสามารถทำเป็นโดยจ่ายค่าผ่อนบ้านต่อเดือนให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีก 30 – 50% หรือโปะเป็นเท่าตัวเลยแม้ทำเป็น อาทิเช่น หากพวกเราจำต้องผ่อนบ้านต่อเดือนอยู่ที่ 10,000 บาทต่อเดือน ก็ให้โปะเพิ่มเป็น 20,000 บาทต่อเดือน ซึ่งแนวทางนี้จะมีผลให้พวกเราผ่อนบ้านได้เร็วขึ้นจาก 30 ปีเหลือแค่ 9 – 10 ปีแค่นั้น แม้กระนั้นถ้าหากว่าพวกเราไม่อาจจะโปะได้มากขนาดนี้

พวกเราบางทีอาจใช้แนวทางผ่อนบ้านให้เร็วขึ้น อย่างเช่น บ้านจัดสรร จากเดิมพวกเราจะต้องผ่อนบ้านทุกสิ้นเดือน เดือนต่อไปก็ทดลองเลื่อนวันให้เร็วขึ้นเป็นโดยประมาณวันที่ 25 แล้วขยับวันผ่อนบ้านให้เร็วขึ้นทุก 5 วันไปเรื่อยจะก่อให้ตลอดปีคุณจะผ่อนบ้านไปทั้งหมดทั้งปวง 14 งวด พอๆกับผ่อนมากขึ้นเฉลี่ยแล้วปีละราว 17% ซึ่งจะมีผลให้พวกเราผ่อนบ้านได้เร็วขึ้นจาก 30 ปีเหลือเพียงแค่ 22 ปี รวมทั้งเมื่อมีเงินก้อน เงินพิเศษ ตัวอย่างเช่น เงินโบนัส พวกเราก็บางทีอาจแบ่งเงินนั้นมาโปะบ้านเพิ่มเติม ก็จะช่วยทำให้ปรับพวกเราผ่อนบ้านให้หมดเร็วขึ้นได้

1.ตรวจสถานะทางด้านการเงิน

“รายได้” และก็ “ค่าใช้สอย” จะเป็นตัวระบุความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการผ่อนส่งหนี้สิน ซึ่งตามหลักทฤษฎีกำหนดแผนการเงินควรจะมีภาระหน้าที่หนี้สินทุกจำพวกแต่ละเดือนสูงสุดไม่เกิน 40% ของรายได้ ดังเช่น ค่าตอบแทนรายเดือน 45,000 บาท จะต้องมีหนี้สินจะต้องผ่อนรวมกันไม่เกิน 18,000 บาท ฉะนั้น ถ้าหากมีหนี้สินอื่นๆเป็นต้นว่า หนี้สินรถยนต์ หนี้สินบัตรเครดิต ที่จำเป็นต้องผ่อนในแต่ละเดือน อาจจะก่อให้การขอสินเชื่อบ้านได้ในวงเงินต่ำลง home

ได้แก่ ผ่อนรถยนต์เดือนละ 6,000 บาท ใช้หนี้ใช้สินบัตรเครดิตเดือนละ 2,000 บาท (รวมกันพอๆกับ 8,000 บาท) แปลว่าจะมีความรู้และมีความเข้าใจสำหรับการผ่อนส่งบ้านอีก 10,000 บาท (18,000 – 8,000) ด้วยเหตุนั้น ก่อนซื้อบ้านควรจะตรวจสอบรายได้เพื่อประเมินว่าตนเองเหมาะสมกับการซื้อบ้านราคาไหน และก็ตรวจสอบค่าใช้สอยเพื่อประเมินความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการผ่อนส่งหนี้สินแต่ละเดือน

ในตอน 3 ปีแรก พวกเราเห็นแก่ได้รับข้อเสนอพิเศษจากสถาบันการเงินที่ปลดปล่อยสินเชื่อ ดังเช่นว่า ดอก 0% ดอกคงเดิมในระดับค่อนข้างต่ำ ก็ให้รีบโปะในระยะนี้ จะมีผลให้เงินที่พวกเราผ่อน ไปลดยอดเงินต้นได้มากขึ้น ยอดหนี้สินบ้านของพวกเราก็จะหมดเร็วขึ้น เนื่องจากเมื่อแปรไปเป็นตอนๆดอกลอยตัว อาจส่งผลให้ภาระหน้าที่ดอกสูงมากขึ้น ก็จะก่อให้ลดต้นได้ลดน้อยลง ซึ่งเมื่อถึงตอนนี้ พวกเราควรต้องขอรีไฟแนนซ์ต่อนั่นเอง บ้าน

เมื่อทราบสถานะทางด้านการเงินแล้วก็ความรู้ความเข้าใจสำหรับการผ่อนส่งหนี้สินแต่ละเดือนแล้ว ก็จะทราบว่าควรจะซื้อบ้านที่ราคาไหนเพื่อทำให้ไม่เป็นภาระหน้าที่จนถึงเกินความจำเป็น ซึ่งแนวทางพื้นฐานสำหรับในการประเมินวงเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์จะคำนวณจากจำนวนเงินที่ผู้กู้มีความเข้าใจผ่อนได้ในแต่ละงวดในอัตราส่วน โดยจำนวนเงินผ่อนต่องวด 8,000 บาท ต่อยอดหนี้สิน 1 ล้านบาท โน่นเป็น หากสามารถผ่อนได้ 8,000 บาทต่อเดือน แบงค์จะให้กู้ 1 ล้านบาท ถ้าหากผ่อนได้ 16,000 บาทต่อเดือน จะกู้ได้ 2 ล้านบาท ฯลฯ

2.ซื้อบ้านในราคาที่สมควร

เมื่อทราบสถานะด้านการเงินแล้วก็ความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการผ่อนหนี้หนี้สินแต่ละเดือนแล้ว ก็จะทราบดีว่าควรจะซื้อบ้านที่ราคาไหนเพื่อทำให้ไม่เป็นภาระหน้าที่จนถึงเหลือเกิน ซึ่งวิธีการพื้นฐานสำหรับเพื่อการประเมินวงเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์จะคำนวณจากจำนวนเงินที่ผู้กู้มีความรู้ความสามารถผ่อนได้ในแต่ละงวดในอัตราส่วน โดยจำนวนเงินผ่อนต่องวด 8,000 บาท ต่อยอดหนี้สิน 1 ล้านบาท โน่นเป็น ถ้าหากสามารถผ่อนได้ 8,000 บาทต่อเดือน แบงค์จะให้กู้ 1 ล้านบาท ถ้าเกิดผ่อนได้ 16,000 บาทต่อเดือน จะกู้ได้ 2 ล้านบาท ฯลฯ Phuket Villas

อย่างเช่น มีความรู้และความเข้าใจสำหรับในการผ่อน 10,000 บาทต่อเดือน จะกู้ซื้อบ้านได้สูงสุด 1,250,000 บาท แต่ เป็นการคำนวณโดยประมาณหากต้องการรู้ว่าตนเองมีความรู้สำหรับในการกู้ได้เยอะแค่ไหนจำต้องหารือข้าราชการแบงค์ ด้วยเหตุว่าการที่จะกู้ได้เท่าใดนั้นยังสังกัดข้อแม้อื่นๆเป็นต้นว่า ช่วงเวลาสำหรับเพื่อการผ่อนหนี้ อัตราค่าดอกเบี้ย หรือมีผู้กู้ร่วมด้วยหรือเปล่า ฯลฯ

3.จ่ายเงินดาวน์เยอะมากๆ

เมื่อคิดแผนซื้อบ้านก็จะต้องมีเงินสำหรับดาวน์บ้าน โดยประมาณ 5 – 20% ของราคาบ้าน ส่วนเงินที่เหลือถึงจะไปขอสินเชื่อกับแบงค์ ซึ่งมีหลายท่านที่เลือกชำระเงินดาวน์ให้ต่ำที่สุด จุดเด่นเป็นใช้เงินตนเองไม่มาก ข้อบกพร่องหมายถึงมีภาระหน้าที่ดอกจ่ายสูง โดยเหตุนั้น ถ้าเกิดเป็นได้ควรจะจัดเตรียมเงินให้พร้อมสำหรับดาวน์บ้านให้เยอะที่สุด ได้แก่ 20% หรือ 30% ก็จะช่วยมัธยัสถ์ดอก

\การรีไฟแนนซ์เป็นการจ่ายเงินกู้ที่มีอยู่ในขณะนี้ทั้งสิ้นด้วยเงินกู้ยืมใหม่ แล้วก็ใช้ทรัพย์สินตัวเดิมเป็นประกัน โดยขอกู้เงินจากสถาบันการเงินที่ใหม่เพื่อนำไปปลดภาระหน้าที่เงินกู้ยืมเก่าที่มีอยู่ วิธีการทำรีไฟแนนซ์เป็นการสร้างสภาพคล่องของการชำระหนี้ เป็นการช่วยลดอัตราค่าดอกเบี้ยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่คุณกำลังผ่อนบ้าน รถยนต์ หรือ คอนโด โครงการภูวิลล่า ภูเก็ต

แล้วกำเนิดอุปสรรคอัตคัดทางการเงิน อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเรื่องเร่งด่วนควรต้องใช้เงิน กำเนิดอุปสรรคผ่อนต่อไม่ติด ทุนน้อยเกินไป ดอกสูงมากขึ้น หรือ หมุนเงินไม่ทัน การรีไฟแนนซ์จะช่วยสร้างสภาพคล่องเรื่องการเงินให้ท่านได้ ที่สำคัญเมื่อพวกเราได้ปรับลดอัตราค่าดอกเบี้ย จะมีผลให้เงินที่พวกเราผ่อนบ้านต่อเดือนไปลดเงินต้นได้มากขึ้น ยอดหนี้สินบ้านของพวกเราก็จะหมดเร็วขึ้น

เป็นต้นว่า ซื้อบ้านราคา 1,500,000 บาท ใช้เงินดาวน์ 10% (150,000 บาท) แปลว่าจะต้องขอกู้จากแบงค์ 1,350,000 บาท สมมุติว่าจ่ายดอก 6% ต่อปี ช่วงเวลาผ่อน 25 ปี ก็จำเป็นต้องผ่อนเดือนละ 8,698 บาท แล้วก็จ่ายดอกทั้งสิ้น 1,259,421 บาท แต่ว่าถ้าหากจ่ายเงินดาวน์ 30% (450,000 บาท) แปลว่าจะต้องกู้อีก 1,050,000 บาท โครงการภูวิลล่า ภูเก็ต ก็จะผ่อนเดือนละ 6,765 บาท และก็จ่ายดอกทั้งปวง 979,548 บาท

เมื่อเงินเพื่อไปดาวน์บ้านจะเป็นเงินระดับแสนบาท ด้วยเหตุดังกล่าว ถ้าหากมีการจัดเตรียมเงินให้พร้อมก่อนซื้อบ้านข้างหลังแรกจะแบ่งเบาภาระค่าใช้สอยได้ แนวทางการหมายถึงค่าจ้างรายเดือนออกก็แบ่งเงินไปลงทุน อาทิเช่น ลงทุนทุกเดือนๆละ 1,000 บาท เห็นผลทดแทนเฉลี่ย 7% ต่อปี ผ่านไป 10 ปี จะมีเงินจากการลงทุนราวๆ 173,084 บาท ซึ่งในทางปฏิบัติก็สามารถนำเงินนี้ไปวางเป็นเงินดาวน์บ้านได้ แต่ว่าก็จัดว่าอยู่ในระดับที่ต่ำ ด้วยเหตุนั้น บางทีอาจนำเงินปริมาณหนึ่งมาเพิ่มเติมเพื่อเงินดาวน์เพิ่มสูงมากขึ้น

4.เพิ่มเงินผ่อนต่อเดือน

ตอนเริ่มวัยทำงาน ค่าจ้างรายเดือนยังมิได้มากก็ควรจะเลือกช่วงเวลาผ่อนบ้านให้นานที่สุด เป็นต้นว่า 25 ปี หรือ 30 ปี ฯลฯ เพื่อลดภาระหน้าที่ค่าครองชีพ แม้กระนั้นเมื่อไรที่ค่าจ้างรายเดือนเพิ่มสูงมากขึ้นหรือมีรายได้เสริมก็จำเป็นต้องเพิ่มเงินที่ผ่อนแต่ละเดือนให้สูงมากขึ้น บางทีอาจใช้แนวทางเพิ่มแบบขั้นบันใด ได้แก่ ปีนี้ผ่อนเดือนละ 6,765 บาท ปีต่อไปผ่อนเดือนละ 7,765 บาท ปีต่อมาผ่อนเดือนละ 8,765 บาท ฯลฯ ก็จะก่อให้อดออมดอกและก็ปลดหนี้สินได้เร็วเพิ่มขึ้น Phuket Villas

โดยเมื่อคุณทำรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงิน ให้มองที่เนื้อหาว่าดอกจากการรีไฟแนนซ์ควรจะต่ำลงยิ่งกว่าดอกเงินกู้ยืมเดิมอย่างต่ำ 2 – 3% โดยเฉพาะถ้าเกิดเป็นการรีไฟแนนซ์บ้านไปอยู่กับสถาบันการเงินใหม่ จำเป็นที่จะต้องพิเคราะห์ว่าค่าครองชีพที่เกิดจากการรีไฟแนนซ์ เป็นต้นว่า ค่าประเมินหลักทรัพย์และก็ค่าจำท่วมนั้น มีค่าน้อยกว่าค่าดอกที่พวกเราออมได้จากการรีไฟแนนซ์หรือเปล่า

แนวทางการทำรีไฟแนนซ์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ว่าสิ่งจำเป็นนั้นอยู่ที่เนื้อหา หลักเกณฑ์ข้อจำกัดของสถาบันการเงิน รวมทั้ง ผลตอบแทนที่คุณจะได้รับ ถ้าเกิดคุณใช้เวลาสักหน่อย ใช้เวลาเรียนรู้เนื้อหาทางด้านการเงินอย่างระมัดระวัง คุณจะได้รับผลตอบแทนจากกระบวนการทำรีไฟแนนซ์อย่างไม่ต้องสงสัย