บ้านสไตล์โรงนาโมเดิร์น สวยครบครบทุกฟังก์ชัน
บ้านสไตล์โรงนาโมเดิร์น บ้านสไตล์โรงนาโมเดิร์น แทรกไปในวิถีบ้าน ๆ ใครที่ชอบบบรรยากาศบ้านป่า บ้านฟาร์ม ที่โอบล้อมด้วยความ อบอุ่นของธรรมชาติ และวิถีบ้าน ๆ คงชื่นชอบการตกแต่ง ด้วยวัสดุธรรมชาติ งานฝีมือพื้นถิ่น เฟอร์นิเจอร์หนังในสไตล์คันทรี หรือสไตล์ที่ผสมผสานความเป็นท้องถิ่น (แบบตะวันตก) เข้าไป แต่บางครั้งก็รู้สึกว่าการแต่งบ้านสไตล์คันทรีเต็มพิกัดดู มีรายละเอียดมากเกินไป เจ้าของบ้านหลาย ๆ คนจึงเลือกประยุกต์แนวทางนี้มาผสมเข้ากับโมเดิร์น ภายใต้ความผ่อนคลายกับวิถีชีวิตแบบบ้าน ๆ ยังคงได้กลิ่นไอของชนบท อยู่บ้างแต่ภาพรวม ดูสบายตามากขึ้น

บ้านสไตล์โรงนาประยุกต์ ให้คมชัดแบบ บ้านโมเดิร์น บ้านหลังนี้สร้าง โดยใช้เค้าโครงเดิมของ บ้านสไตล์โรงนาฝรั่งที่มักจะทำหลังคาทรงสูง แตกต่างตรงที่วัสดุสร้าง บ้านฟาร์มเดิม ๆ มักจะใช้ไม้เป็นส่วน ประกอบหลักผสม วัสดุท้องถิ่น อาจจะเป็นอิฐ แผ่นหิน และปิดรอบบ้านทึบ ช่องแสงน้อย แต่บ้านนี้มีกระจก เป็นส่วนประกอบมากขึ้น ใส่เส้นสายเหล็กสีดำตัดกับผนังสีขาวที่ทำให้บ้านดูคมชัด เชื่อมต่อภายในภายนอกได้ดี แต่ยังคงแวดล้อม ด้วยภูมิทัศน์ธรรมชาติ จากสวนที่จัดขนาบ 2 ข้างทางเดินก่อน เข้าสู่ตัวบ้าน
การตกแต่งภายในจัด แปลนบ้านแบบ open plan รวมพื้นที่ใช้งานหลาย ๆ อย่างที่แตกต่างเอาไว้ ด้วยกันในจุดเดียว ไม่ว่าจะเป็นโซนนั่งเล่น ส่วนทานข้าว และครัว ที่ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นแบบบ้านที่ ให้ความรู้สึกสมัยใหม่ที่คมชัดและโปร่งเบา แต่ยังคงกลิ่นอายของ โรงนาชนบทเอาไว้ไม่น้อย เห็นได้จากพื้นบ้านที่ ปูด้วยไม้ ผนังทาโทนสีขาวสบายตา จัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่มีทั้งไม้ คอนกรีต เบาะหนัง และงานผ้าแบบพื้นเมือง ที่บอกเล่าเรื่องราว ของวิถีชีวิตได้เป็นอย่างดี

ห้องทานข้าวสไตล์คันทรีโมเดิร์น
ห้องรับประทานอาหารที่ ประตูกระจกขนาดใหญ่ เปิดโล่งกว้างเชื่อมต่อกับสวนได้ อย่างแนบเนียน เป็นศูนย์กลางการใช้เวลาร่วมกันของคนทั้งบ้าน หากต้องการตกแต่ง สไตล์คันทรีมักจะใช้ เป็นโต๊ะทำจากไม้ใหญ่ ดูแข็งแรง ขากลึงกลม วางเก้าอี้หนังสีน้ำตาล ตกแต่งด้วยโคมไฟรูปร่างเขาสัตว์ แต่ในบ้านคันทรีที่ประยุกต์ เข้ากับบ้านโมเดิร์นก็อาจจะลดทอนรายละเอียด เช่น โต๊ะเป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมขาตรง ชุดเก้าอี้เหล็กเบาะหนัง คอนโซลเหล็ก ที่ทำให้ห้องดูเฉียบคมขึ้น
ออกแบบครัวให้น่าใช้งาน ด้วยการบิวท์ชั้นวาง ตู้ครัวด้วยไม้สีธรรมชาติ ด้านหน้าวางไอส์แลนด์ เตรียมอาหารที่สูงพอดีกับเก้าอี้สตูลขาสูงเบาะหนังสีน้ำตาลเท่ ๆ ได้ จุดนี้เป็นเสมือนบาร์เล็กๆ สำหรับใช้งานได้ หลากหลายฟังก์ชัน จะนั่งจิบกาแฟ ทานอาหารเช้า หรือต้อนรับเพื่อน ๆ ยามมาปาร์ตี้ก็ได้เช่นกัน phuket property

ห้องนั่งเล่นสไตล์คันทรี ในมุมพักผ่อนส่วนตัวที่ซ่อนอยู่ หลังบานกระจก นำเสนอลุคแบบบ้านฟาร์ม ที่เชื่อมต่อกับวิถีของต้นไม้ สัตว์ป่า ด้วยการวางโต๊ะกลางท็อปไม้ดิบ ๆ บนพื้นไม้ ใกล้ ๆ กันมีเก้าอี้เดินป่าพนัก พิงสูงเบาะหนังสีน้ำตาลเข้ม และพรมขนสัตว์สังเคราะห์ สีขาว ของประกดับตกแต่ง รูปหัวกวาง เป็นต้น
ห้องนอนดูอบอุ่นผ่อนคลายด้วยเตียงแบบสี่เสา ทำสีขัดเก่า ๆ ให้เหมือนผ่านกาลเวลามานาน ตกแต่งด้วยชุดเครื่องนอนปักมือ หมอน และโคมไฟที่เป็นงานฝีมือจากท้องถิ่น
บรรยากาศ บ้านในฟาร์มปศุสัตว์หรือโรงนา แบบตะวันตกจะมีกลิ่น อายชนบทปนอยู่ทุกจุด หากต้องการเพิ่มความใกล้เคียงให้ดูอบอุ่นขึ้นแบบไม่รกตา ก็สามารถตกแต่งด้วยตะกร้า หวายใส่ไข่ไก่พลาสติก หรีดฟาง หรือถังนมสังกะสี ที่สื่อถึงผลผลิตจากฟาร์ม แต่ถ้าชอบความรู้สึกโมเดิร์น ก็อาจจะแต่งด้วย งานไม้ชิ้นเล็ก ชิ้นน้อยรูปทรงบ้านหลังคาจั่วสูง โคมไฟเหล็กดัดเรขาคณิต หรือของตกแต่งเหล็ก ดัดรูปหัวกวาง เป็นต้น บ้านจัดสรร

ไอเดียบ้านสไตล์โรงนาโมเดิร์น 3 หลัง
ใกล้วันหยุดยาวประจำปีทีไร สิ่งที่หลาย ๆ คนรอคอยคือการหลีกหนีจากความเร่งรีบในเมือง ไปพักผ่อนในสถานที่ที่สามารถเพลิดเพลินกับช่วงเวลาสบาย ๆ ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มองไปทางไหนก็เขียวขจีแสดสดชื่น ทุกลมหายใจสูดเข้าไปได้เต็มปอด โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารพิษ คิดแล้วก็อยากวาร์ปไปเสียเดี๋ยวนี้ จึงขออาสาพาผู้อ่านไปชมที่พักบรรยากาศดี ๆ แบบที่ว่านี้ด้วยกัน โครงการนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าที่ออกแบบ รูปลักษณ์ที่เรียบง่ายแต่มีลักษณะเฉพาะที่สามารถเข้ากับทิวทัศน์ ของป่าสนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทุกย่างก้าวชวนให้ผ่อนคลายตั้งแต่เช้าจรดเย็น
วิลล่ากลางทิวสน Villa Tonden เป็นสถานที่พักผ่อนในวันหยุดพื้นที่ 150 ตารางเมตร สร้างอยู่ภายในป่าสน ประเทศเนเธอร์แลนด์ HofmanDujardin ออกแบบโดยตั้งเป้าหมายจะให้ที่นี่เป็นสถานที่ หลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองอย่างสมบูรณ์แบบ สร้างรูปลักษณ์เฉพาะให้เข้า กับจุดที่ต้องการเปิดโล่งในป่าสน บ้านไม้หลังนี้เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำ เป็นสำหรับการพักผ่อนกับครอบครัว และเพื่อนฝูง ออกแบบให้อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนกับทิวไม้ ห้องพักทุกห้องมีทัศนียภาพที่สวยงาม ของธรรมชาติในมุมมองที่แตกต่าง บ้านแฝด

โครงการประกอบด้วย บ้านรูปทรงโรงนาหลังคาจั่วสูง 3 หลัง สถาปนิกเลือกห่อหุ้มเปลือกด้วยไม้ตีแนวตั้งรอบ ๆ บ้านทำให้การปรากฏตัวของบ้านนุ่มนวลอบอุ่นในภูมิทัศน์โดยรอบ การจัดวางบ้านที่เป็น 3 ก้อนวางเป็นกลุ่มทำให้มีสเปซว่างๆ ด้านหน้าและด้านข้าง สามารถออกมานั่งเล่นชมวิวสนาม และป่าที่ล้อมรอบได้ในมุมที่ชอบ ในขณะที่ผนังบ้านเจาะช่องแสงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ใส่ประตูบานเลื่อนมาพร้อมคุณสมบัติใน การเชื่อมต่อภายในภายนอกที่ราบรื่นระหว่างกัน
สเปซที่ไม่ซ้ำใคร

ในบ้าน 3 กล่อง แยกเป็นกล่องสำหรับพื้นที่ ใช้งานร่วมกัน ประกอบด้วยครัว ห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหาร ส่วนอีก 2 กล่องเป็นห้องนอน สำหรับอาคารใหญ่ที่สุดที่เป็นพื้นที่สาธารณะจะโปร่งสว่าง เชื่อมต่อแสง ลม วิวกับพื้นที่ใช้สอยหลักอย่างเปิดเผยผ่านช่องเปิดในสาม ทิศทางตามการเดินทางของดวงอาทิตย์ ประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่สองบานเปิดไปทางทิศตะวันออกและระเบียงทิศตะวันตก ความใสของกระจกทำให้เส้นแบ่ง ระหว่างภายใน และภายนอกหายไป บ้านจึงเหมือนมีอิสระอย่างไร้ขอบเขต บ้านเดี่ยว
ห้องนั่งเล่นเป็นหัวใจสำคัญของการพักผ่อนในวันหยุด จึงต้องตกแต่งให้รู้สึกเชิญชวน ให้มารับประทานอาหารกับครอบครัว หรือมานั่งพูดคุยในช่วงเย็นที่อบอุ่นและสบาย ๆ รอบเตาผิง สถาปนิกเลือกสีขาวเป็นสีหลัก ทั้งผนังและเพดาน เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย สงบ และอบอุ่น บนเพดานมองเห็นโครงหลังคาไม้ซึ่งจะช่วยเน้นความสูง และยังให้อารมณ์แบบโรงนาเดิม ๆ บนความเรียบง่ายใน สไตล์โมเดิร์น

มองนกชมกวางได้จากในห้อง
hofmandujardin ได้ออกแบบพื้นที่แต่ละส่วนใน “villa tonden” ให้มีความสัมพันธ์ที่เป็น เอกลักษณ์กับธรรมชาติโดยรอบ ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำส่วนตัว และหน้าต่างบานใหญ่ที่มอง เห็นวิวป่าโดยรอบได้แบบไร้ สิ่งกีดขวาง ห้องนอนเด็กมีเตียงสองชั้นสี่หลัง ผนังเจาะหน้าต่างบานใหญ่ มีเบย์วินโดว์ยาวขนานไป กับหน้าต่าง จากจุดนี้เด็ก ๆ จะสามารถมองเห็นป่ามองดูนกและกวางจากเตียง และม้านั่งริมหน้าต่างโดยไม่ ต้องออกไปข้างนอก นอกจากห้องนอนใหญ่ และห้องนอนเด็กแล้ว Villa Tonden ยังมีห้องใต้หลังคาอีก 2 ห้อง ทั้งสองมีสกายไลท์เพื่อชมดวงดาวและยอดไม้
การออกแบบ บ้านสไตล์โมเดิร์น เน้นความน้อยของรายละเอียด บ้านบางหลังไม่มีกันสาด ไม่มีชายคา เหมือนโรงนาสไตล์โบราณของบ้านทางฝั่งซีกโลกตะวันตก ซึ่งเข้ากับสภาพภูมิอากาศประจำ ท้องถิ่นที่มีฤดูหนาวจัดมีหิมะ จึงต้องทำหลังคาองศาลาดเอียงค่อนข้างมาก เพื่อให้หิมะไหลลง ได้สะดวกไม่คงความชื้นบนหลังคา แต่หากนำมาให้ในบ้านเราก็ต้องมีการปรับให้เหมาะสม เพราะเขตอากาศร้อนชื้นมีทั้งฝนและแดด หากไม่มีกันสาดจะทำให้ผนังบ้านเสียหายได้ ถ้าชอบบ้านทรงนี้จริง ๆ อาจจะปกป้องบ้านด้วย การใช้ไม้ที่ทนสภาพอากาศกรุทับเช่น ไม้สัก ไม้ซีดาร์ หรือกรุหลังคาและผนังด้วยชิงเกิ้ลรูฟ (แผ่นยางมะตอย) เป็นต้น
อ่านบทความที่หน้าสนใจ